Thursday, June 20, 2019

Moulin de​ la​ galette

Moulin de​ la​ galette กุหลาบที่ชื่อเหมือนร้านอาหาร....
ร้านอาหารที่เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินวาดภาพชื่อดังหลายคน.... 
ศิลปินเค้าไปกินขนมปังที่เป็นชื่อของร้านอาหาร....แล้วเราก็ซื้อกุหลาบมาอีกที​
กุหลาบพันธุ์นี้ชื่อ​ Moulin de​ la​ galette ค่ะ​ เป็นกุหลาบญี่ปุ่นที่ผสมพันธุ์ขึ้นเมื่อปี 2014 โดยได้ชื่อตามร้่านอาหารดังแห่งหนึ่งของย่านมองมาร์ต​ในปารีส​ ที่มีสัญลักษณ์คือกังหันลม​(Moulin)​ เพิ่งซื้อมากุหลาบมาไม่นานก็ได้ชมดอกแล้วค่ะ​ ตอนเห็นดอกทีแรกตกใจเพราะเวลาดูในเน็ตมักจะเห็นว่าเป็นดอกทรงถ้วย​แต่ของเราจะเป็นกลีบ​ซ้อนคนละแบบ​ ถามไป​ที่น้องคนขาย น้องบอกว่าต้องช่วงหนาวๆ​ ธันวาคมถึงมกราคมช่วงนั้นถึงจะเห็นเป็นถ้วยชัดๆ​ :)​









ตานี้มาดูที่ชื่อน้องกุหลาบค่ะ​ ปกติซื้อกุหลาบเพราะชื่ออยู่แล้ว​ กุหลาบต้นนี้ชื่อเหมือนร้านอาหาร​และสถานที่เต้นรำที่มองมาร์ต​ ความสำคัญของร้านนี้อยู่ที่เป็นที่พบปะสังสรค์อันเป็นที่นิยมของคนยุคนั้น​ และมีศิลปินดังยุคนั้นวาดรูปของสถานที่นี้ไว้มาก​ ที่น่าจะคุ้นตากันก็เป็นภาพ​ การเต้นรำที่มูแล็งเดอลากาแล็ต( Bal du moulin de la Galette) ของ​ Pierre-Auguste Renoir (สาวกเรอนัวร์เป็นกรี๊ด และไปดูภาพจริงได้ที่พิพิธภัณฑ์​ Musée d'Orsay ค่ะ​ แต่ที่นั่นเขาไม่ให้ถ่ายภาพนะคะ เสียใจ) ส่วนของ​ Van Goh ก็มีซีรี่ส์ภาพ​ Le Moulin de la Galette ถ้าเป็นของ​ Picasso ก็มีภาพชื่อ​ Le Moulin de la Galette เหมือนกัน​ จริงๆมีอีกเยอะนะคะ​ แต่ที่เห็นบ่อยๆก็จะประมาณนี้



ร้านนี้ได้ชื่อจากการที่เดิมก็เป็นกิจการโรงสีลม​ซึ่งมีสองตัวชื่อ​ Blute-fin กับ Radet พี่กังหันเขาสามารถผ่านช่วงเวลาลำบากๆของปารีสที่อยู่ในช่วงสงครามสมัยนโปเลียน​ สงครามกับปรัสเซีย​ ที่โหดร้ายถึงขนาดตรึงคนไว้กับแขนกังหันลม​ สยองมากๆ​ รอดมาได้จนตอนนี้เขาถือว่าเป็นอนุสาวรีย์ของปารีสแห่งหนึ่งไปแล้ว
ปัจจุบันร้่านเปิดให้บริการนะคะ​ อยู่ที่ถนน​ Lepic ใครไปเที่ยวมองมาร์ต​ เวลาจะเดินลงเที่ยวลงมาที่เมโทรโดยใช้ถนนเส้นนี้ก็จะเห็นร้านอาหารที่มีกังหันลมตั้งอยู่ข้างบน​ ตอนไปเที่ยวก็เห็นนะคะ​ ถ่ายรูปไว้ด้วย​ แต่ไม่รู้ว่านี่คือร้าน​ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินที่เราชอบๆ​ กังหันลมที่วางอยู่ปัจจุบันคือตัวที่ชื่อ​ Radet ค่ะ
ป. ล. นอกเรื่องจากกุหลาบ​ ไหนๆก็พูดถึงถนน​ Lepic​ ใครไปเที่ยวแถวนั้นลองเดินดูนะคะ​ เพราะนอกจาก​ร้านกังหันร้านนี้แล้ว​ สุดถนนด้านล่าง​ จะมีร้าน​กังหันแดง( Moulin Rouge) คาบาเร่ต์อันโด่งดัง​ที่นำมาสร้างหนังไปหลายรอบแล้ว
ส่วนใครเป็นแฟนหนังเรื่อง​ Amelie ร้านที่นางเอกทำงานก็อยู่บนถนนนี้​ ชื่อร้าน​กังหันสองตัว​ (Café des 2 Moulin) เพราะตั้งอยู่ระหว่าง​ Moulin Rouge และ​Moulin de​ la​ galette นั่นเองค่ะ


No comments: