น้องหนูแดงไปแล้ว

น้องหนูแดงเป็นรถยนต์ที่ดีคันหนึ่ง

รูปเดือนสิงหาคม 2558

มีรถของตัวเองคันแรกในปี 1992 เป็น Mitsubishi Lancer ที่ปรับโฉมใหม่ คันนี้คุณพ่อถอยรถให้ นัยว่าสงสารลูกสาวที่ตอนนั้นขับรถออสตินแล้วซ่อมบ่อยเหลือเกิน ตอนจะซื้อให้ก็ให้เลือกรถในระดับเดียวกัน คือจริงๆควรได้รถ 1300 ซีซี แต่ช่วงนั้นมี Nissan Sentra 1400 cc และ Mitsu รุ่นนี้ 1500 cc ตอนนั้นราคารถ 454,000 บาท ก็เลือกมิตซูเพราะใหญ่สุดในกระบวน เลือกสีแดงเลือดหมูเพราะสดใสดีแต่ไม่ฉูดฉาด ตอนซื้อซื้อรถที่ระนองแล้วส่งขึ้นไปกรุงเทพฯ หนูแดงเป็นเด็กเมืองกรุง

น้องหนูแดงอยู่กันมาแบบไม่ดื้อไม่ซน ไปไหนก็ได้ไม่เรื่องมาก ลุยน้ำก็ไม่เป็นไร ไปเหนือล่องใต้ด้วยกันตลอด เคยขับลงใต้ไปแถบยะลาปัตตานี ขึ้นเหนือพาครอบครัวเราไปทริปสุโขทัย ไปท่องทริปอีสานเป็นวงกลมไปนครพนม มุกดาหาร มหาสารคาม บุรีรัมย์ ส่วนย่านใกล้ๆก็ไปมาทั่ว จนในที่สุดเมื่อย้ายมาทำงานที่นครศรีธรรมราช หนูแดงก็กลายเป็นเด็กใต้ ระยะทางขับทั้งหมดประมาณสองแสนกว่ากิโลเมตร เพราะเมื่อมาอยู่ท่าศาลา ระยะทางบ้านกับที่ทำงานแค่ 3-4 กิโล

รถมิตซูรุ่นนี้มีจุดอ่อนจากการผลิตคือรอยพุพองบริเวณหลังคา อันนี้เป็นทุกคันเลย  เพราะฉะนั้นหนูแดงจะเข้าทำสีเรื่อยๆตามสภาพ  แต่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ หนูแดงมีอุบัติเหตุหลายครั้งเหมือนกันแต่นิดๆหน่อยๆ เป็นการถูกชนเสียมาก  มีขับรถสวนกับมอเตอร์ไซต์โดนชนหูช้างก้บด้านหน้านิดนึง  โดนรถขนไปรษณีย์มาเบียดที่สามแยกดินแดงนิดนึง เราก็มาของเราดีๆ  และเคยจอดไว้ที่อาคารฐานเศรษฐกิจตอนไปเรียน กลับมาดู อ้าว มีรถถอยหลังมาชนประตู พอมานครก็เคยเจอนักศึกษารีบขี่มอเตอร์ไซต์มาส่งงาน ระหว่างที่หนูแดงตีวงเข้าซอง เขาก็พุ่งมาชนประตูข้าง สรุปว่าหนูแดงเคอเคสมาพอควรแต่ไม่หนักหนา เอาแค่สะเดาะเคราะห์ :)

จนเดือนกรกฎาคม 2560 ในที่สุดก็ถึงเวลาที่น้องแดงต้องไป ให้คนได้ใช้ต่อดีกว่าขายเป็นเศษเหล็กเพราะไม่มีโอกาสได้ใช้ แถมกระจกรถก็เสียปิดไม่ได้ ถอดแบตทิ้งวางไว้สองปี นับง่ายๆก็คือตั้งแต่ซื้อน้องซีวิคมาใหม่ ขายไปแค่สองหมื่นบาทผ่านน้องช่างไดนาโม น้องสุวัฒน์ที่ช่วยดูหนูแดงตั้งแต่มาอยู่นครจนบัดนี้

เสียดายเหมือนกันนะ อยู่กันมานาน 25 ปีแน่ะ แต่ดีกว่าจอดทิ้งไว้เฉยๆแล้วผุพังนะคะ